เตือนภัย 5 จังหวัดยอดผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พุ่ง

เตือนภัย 5 จังหวัดยอดผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พุ่ง กระตุ้นเร่งป้องกันผ่านพฤติกรรมส่วนบุคคล

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เปิดเผยสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในประเทศไทย พบว่ามี 5 จังหวัดที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีที่ผ่านมา ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา และมหาสารคาม โดยข้อมูลดังกล่าวไม่ได้สะท้อนแค่จำนวนผู้ติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังชี้ถึงแนวโน้มพฤติกรรมเสี่ยงในพื้นที่ดังกล่าวที่มีความน่ากังวลอย่างยิ่ง

ตัวเลขผู้ป่วยพุ่งในหลายพื้นที่ วัยรุ่นกลุ่มเสี่ยงหลัก เหตุไม่ใช้ถุงยาง

นพ.พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เปิดเผยว่า จังหวัดมหาสารคามรายงานจำนวนผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในปี 2568 รวม 443 ราย ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่สูง แต่หากเทียบกับข้อมูลย้อนหลังในระดับประเทศ พบว่าอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยที่กรมควบคุมโรคเคยบันทึกไว้ในแต่ละปี ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 400 – 500 รายต่อจังหวัด

ขณะเดียวกัน กองโรคเอดส์ฯ ยังมีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางผ่านเว็บไซต์ HIV INFO HUB ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยรายจังหวัด รวมถึงบทความทางวิชาการเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้โดยตรง เพื่อความโปร่งใสในการรายงานและให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อสาธารณะ

การป้องกันตกต่ำ ความเข้าใจผิดว่าปลอดภัย

สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดในขณะนี้คืออัตราการสวมถุงยางอนามัยในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย นพ.พงศ์ธร ให้ข้อมูลว่า บางคนอาจคิดว่า “โรคเหล่านี้หายไปแล้ว” เนื่องจากไม่ได้รับข่าวสารที่เกี่ยวข้องมานาน ส่งผลให้พฤติกรรมการป้องกันตนเองลดลงอย่างชัดเจน

สถานการณ์ที่ปรากฏในปัจจุบัน พบว่าอัตราการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ซิฟิลิส และหนองใน ในกลุ่มวัยรุ่นพุ่งสูง โดยเฉพาะซิฟิลิสและหนองใน มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากถึง 6 เท่าภายในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

การรักษาลดการแพร่เชื้อได้จริง แต่ต้องต่อเนื่อง

แม้ว่าการรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพสูง หากผู้ป่วยรับประทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอก็สามารถลดโอกาสในการแพร่เชื้อได้เกือบเป็นศูนย์ อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกลุ่มที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อไป

สื่อสาร-สร้างความตระหนักรู้ คือหัวใจของการควบคุมโรค

นพ.พงศ์ธร ย้ำว่า การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเปราะบาง จำเป็นต้องได้รับความรู้ ความเข้าใจ และมีการส่งเสริมให้ใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพียงเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่เพื่อปกป้องตนเองจากโรคร้ายแรงที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างถาวร